บางคนอาจจะหมกมุ่นอยู่กับเส้นผมของพวกเขา การดูแลรักษา ในขณะที่บางคนหมกมุ่นกับการดูแลเล็บของตนอย่างจริงจัง

คนที่รักและใส่ใจการดูแลเล็บ พวกเขาวิธีมากมายในการแสดงออกถึงความรักเล็บของพวกเขา การเข้าสปาทำเล็บมือและเล็บเท้าเล็บเทียมและเล็บบ่อยๆเป็นเทคนิคการเสริมเล็บที่ได้รับความนิยม

เล็บมือช่วยปกป้องปลายนิ้วกระดูกนิ้วบาง ๆ และเนื้อเยื่อรอบข้าง เมื่อเล็บมีสัญญาณเตือน ผู้คนส่วนใหญ่มักมองข้ามไปและไม่เชื่อมโยงโรคกับเล็บ  เพราะบางครั้งเล็บของคุณสามารถให้คำเตือนเรื่องสุขภาพอันมีค่าและแสดงสัญญาณว่ามีโรคร้ายแรงและความผิดปกติกับร่งกายของคุณ

การที่มีเล็บที่แข็งแรงและสุขภาพดี ก็จะช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับคุณได้ และก็หมายถึงการที่คุณมีสุขภาพที่ดีอีกด้วย การดูแลตัวเองเป็นอย่างดี เป็นสัญญาณการมีสุขภาพดี แต่ถ้าหากวันหนึ่งเล็บคุณมีปัญหาสุขภาพ นั่นแปลว่าร่างกายพยายามบอกบางสิ่งบางอย่างกับคุณ

ในทางตรงกันข้ามอาการเล็บไม่แข็งแรง แสดงถึงปัญหาสุขภาพหลายประการรวมทั้งการขาดสารอาหารการติดเชื้อและโรคร้ายแรง

เมื่อเล็บสามารถบอกปัญหาสุขภาพของคุณได้ !

1. เล็บเหลือง

หากเล็บของคุณมีสีเหลืองอ่อนหรือน่าทึ่งก็อาจหมายถึงปัญหาสุขภาพมากมาย ปัญหาที่พบบ่อยที่สุดที่บ่งบอกว่าเป็นเชื้อราที่เล็บ

คนที่เป็นโรคเบาหวานมีแนวโน้มที่จะทนทุกข์ทรมานจากการติดเชื้อราในเล็บเท้าซึ่งทำให้เล็บกลายเป็นสีเหลืองและกลายเป็นอาการเล็บเปราะ หากการติดเชื้อไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องจะทำให้เล็บของคุณแย่ลง เปราะบางติดเชื้อดูสุขภาพไม่ดีและแตกบิ่น หักง่าย

บางครั้งสีเหลืองบนเล็บอาจเกิดขึ้นตามธรรมชาติเมื่ออายุหรือจากการใช้ยาทาเล็บเล็บอะคริลิคหรือสีทาเล็บบ่อยๆ

เพื่อป้องกันไม่ให้เล็บสีเหลืองลองหยุดพักจากผลิตภัณฑ์เล็บและดูแลบำรุงรักษาเล็บก่อนที่จะกลับมาตกแต่งเล็บอีกครั้ง แม้กระทั่งการสูบบุหรี่ที่มากเกินไปอาจทำให้เล็บเป็นสีเหลืองได้

เล็บสีเหลืองอาจบ่งบอกถึงสัญญาณการเตือนโรคของร่างกาย เช่น ภาวะหลอดลมตีบ, โรคปอด เช่น วัณโรค สภาวะของตับ เช่น โรคดีซ่าน, ปัญหาเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์หรือโรคสะเก็ดเงินซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดรอยแผลเป็นบนผิว

2. เล็บซีดและหมองคล้ำ

เล็บอ่อนแอและมีสีหมองคล้ำก็บ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้น หนึ่งในสาเหตุหลักของเล็บ คือ เป็นโรคโลหิตจางขาดธาตุเหล็ก

เนื่องจากมีจำนวนเม็ดเลือดแดงต่ำจึงไม่มีออกซิเจนในเลือดเพียงพอ ทำให้ผิวและเนื้อเยื่ออื่น ๆ ซีดลงโดยเฉพาะเนื้อเยื่อใต้เล็บ

หากเหตุผลคือการขาดออกซิเจนสิ่งสำคัญคือควรนวดเตียงเล็บด้วยน้ำมันมะกอกอุ่น ๆ สักสองสามครั้งต่อวัน

ความเป็นไปได้อื่น ๆ ได้แก่ ภาวะทุพโภชนาการ การขาดสารอาหาร ตับอักเสบ โรคหัวใจล้มเหลวและโรคตับหรือไต

ไม่ว่าสาเหตุใด ๆ หากคุณมีเล็บซีดมากมานานกว่าสองเดือนขอแนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง

3. เล็บแตก

ปัญหาเล็บนี้เป็นเรื่องธรรมดาและหลายคนต้องทนทุกข์ทรมานจากปัญหานี้ เล็บแตก ฉีกและแยกไม่ปกติและสามารถระบุถึงภาวะขาดสารอาหารการบาดเจ็บและปัญหาสุขภาพมากมาย

การขาดกรดโฟลิควิตามินซีหรือโปรตีนอาจทำให้เกิดปัญหานี้ได้ เล็บแตกอาจเกิดจากการขาดสารอาหารเรื้อรัง

เล็บที่เปราะและแตกอาจเกิดจากการติดเชื้อเล็บเชื้อรา (โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออาการนี้มาพร้อมกับเล็บสีเหลือง) สภาพผิวที่เรียกว่า lichen planus, ต่อมไธรอยด์ทำงานบกพร่อง

การล้างมือบ่อยๆหรือการใช้ยาทาเล็บบ่อยๆ หรับเล็บที่เปราะและอ่อนแอของคุณได้ เป็นสิ่งที่ควรงดปฏิบัติชั่วคราว อย่างน้อย หลังจากที่เล็บคุณกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง

เพื่อรักษาปลายเล็บแยกพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำมากเกินไป ทำให้เล็บชุ่มชื้น ด้วยน้ำมันหรือผลิตภัณฑ์บำรุงจะดีกว่า

4. เล็บหนามากเกินไป

เช่นเดียวกับเล็บที่ซีดหรือแตกเล็บหนาเกินไป ไม่เป็นธรรมชาติ แม้ว่าการบาดเจ็บที่สำคัญของเล็บเป็นสาเหตุที่เห็นได้ชัดของเล็บหนาและพื้นผิวที่หยาบกร้าน แต่ก็สามารถส่งสัญญาณการติดเชื้อราได้

เล็บหนาเป็นหนึ่งในอาการสำคัญของการติดเชื้อของเชื้อราโดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงอายุซึ่งอาจทำให้เล็บเปลี่ยนสีและเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลได้

เล็บหนาและคั่นได้นอกจากนี้ยังอาจบ่งบอกถึงโรคต่อมไทรอยด์ สาเหตุอื่นที่เป็นไปได้คืออายุที่เพิ่มขึ้น โรคสะเก็ดเงิน สวมรองเท้าที่กระชับเป็นเวลานานและโรคข้ออักเสบ

เล็บหนาอาจเป็นชั่วคราวหรือถาวรขึ้นอยู่กับสาเหตุ

เนื่องจากเล็บหนาเกินไปอาจทำให้เจ็บปวดและยากที่จะตัด และสามารถเพิ่มความไวต่อการติดเชื้อได้ ในการตัดเล็บหนาควรแช่ไว้ในน้ำอุ่นประมาณ 10 นาทีก่อน

เล็บที่มีความหนาแน่นมีการเปลี่ยนแปลงที่ควรปรับให้คุณเข้ากับอาการสุขภาพอื่น ๆ ที่คุณอาจละเลย ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์!

5. เล็บพอง

“clubbing of nails” หมายถึงปลายนิ้วมือพองและรูปร่างของเล็บจะโค้งและโค้งมน

นอกจากนี้ยังสามารถทำให้เล็บนุ่มขึ้นซึ่งทำให้เล็บอ่อนแอต่อการแตกหัก การต่อเล็บอาจอาจเป็นสาเหตุของปัญหาเล็บมือหรือเล็บเท้าของคุณ

การมีเล็บพองเกิดจากการลดออกซิเจนในเลือดซึ่งอาจบ่งบอกถึงโรคปอดหัวใจตับหรือไต

การศึกษาพบว่าสามใน 10 คนที่เป็นมะเร็งปอดชนิด non-small cell อาจมีอาการนี้

อาการเหล่านี้สัมพันธ์กับโรคลำไส้อักเสบโรคหลอดเลือดหัวใจโรคปอดและโรคเอดส์ สาเหตุที่เป็นไปได้อื่น ๆ ได้แก่ โรค celiac, บิด, โรค Graves และต่อมไทรอยด์

6. Spoon Nails

Spoon Nails หรือการที่เล็บเป็นแอ่งเหมือนช้อนหรือที่เรียกว่า koilonychia เป็นความผิดปกติของเล็บจากการที่ผิดปกติและแบนหรือเว้าแม้ในรูป มันเป็นเรื่องธรรมดาในเล็บ แต่ก็สามารถเห็นได้ในเล็บเท้าด้วย

การศึกษาในปีพ. ศ. 2555 ตีพิมพ์ในรายงานของ Permanente Journal ว่า Spoon nails เป็นสัญญาณของการขาดธาตุเหล็ก และเป็นโรคโลหิตจาง

ปัญหาเล็บประเภทนี้แก้ไขได้หลังจากที่ผู้ป่วยเริ่มเข้ารับการรักษาด้วยการรับประทานธาตุเหล็กทดแทน อย่างไรก็ตามจะใช้เวลาหลายเดือนเพื่อให้รูปร่างของเล็บกลับสู่สภาพปกติ

สาเหตุที่เป็นไปได้อื่น ๆ ของเล็บช้อน ได้แก่ ความสูงระดับสูง hypothyroidism โรคหัวใจ hemochromatosis (การดูดซึมธาตุเหล็กส่วนเกินการบาดเจ็บการสัมผัสกับผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและแม้แต่พันธุกรรม

เนื่องจากเล็บช้อนอาจเกิดจากสาเหตุหลายประการจึงจำเป็นต้องมีการประเมินผลที่เป็นไปได้เกี่ยวกับการขาดธาตุเหล็กหรือสาเหตุอื่นที่เป็นไปได้

7. Pitted Nails

เล็บที่เป็นรู และขรุขระ ไม่เรียบ หมายความว่ามีรอยแตกเล็ก ๆ ในเล็บ โดยปกติแล้วความผิดปกตินี้สามารถมองเห็นได้ในชั้นบนสุดของแผ่นเล็บซึ่งเกิดจากเมทริกซ์เล็บด้านล่าง ความผิดปกติเหล่านี้แตกต่างกันไปในด้านสัณฐานวิทยาและการกระจายตัวขึ้นอยู่กับสาเหตุ

โดยทั่วไปเป็นสัญญาณของการเกิด โรคสะเก็ดเงิน  ปัญหาเล็บชนิดนี้มีผลต่อเล็บมือมากกว่าเล็บเท้า

พูดคุยกับแพทย์ของคุณถ้าเล็บของคุณถูกปกคลุมด้วยหลุมหรือบุบเพื่อตรวจสอบสาเหตุ

8. ปลายเล็บสีคล้ำ

เป็นปัญหาสุขภาพชนิดหนึ่ง ที่เล็บกลายเป็นสีทึบใส่วนที่ควรจะเป็นสีชมพู

ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในปี 2527 ใน Lancet พบว่าร้อยละ 25.2 ของผู้ป่วยในโรงพยาบาลติดต่อกันถึง 512 ราย มีอาการเหล่านี้

การศึกษารายงานว่าปัญหานี้พบได้ในผู้ป่วยโรคตับแข็ง โรคหัวใจล้มเหลวเรื้อรังและโรคเบาหวาน

คนที่มีอายุมากกว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับความทุกข์ทรมานจากอาการเล็บคล้ำ นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากการขาดสารอาหารที่เหมาะสม เคมีบำบัดและไทรอยด์ และยังพบในผู้ป่วยเอชไอวีอีกด้วย

9. เล็บ มีตำหนิเป็นเส้นแนวขวางเล็บ

ส่วนลึกของแนวนอนบนเตียงเล็บเรียกว่า Beau’s lines การเจริญเติบโตของเล็บที่ไม่ถูกต้องทำให้เกิดร่องที่ฐานของเล็บ

การขยายตัวของเล็บที่อาจจะได้รับอุบัติเหตุ อาจเกิดจากการได้รับบาดเจ็บหรือการบาดเจ็บต่อเล็บก่อนหน้านี้เคมีบำบัดปฏิกิริยายาโรคเบาหวานที่ไม่สามารถควบคุมโรคเกี่ยวกับการไหลเวียนโลหิตหรือการเจ็บป่วยที่เกี่ยวข้องกับอาการไข้สูงเช่นโรคปอดบวมหรือคางทูมได้ นอกจากนี้ยังอาจเป็นสัญญาณของการขาดสังกะสี

การสัมผัสกับอุณหภูมิที่เย็นจัดเกินไปอาจทำให้เกิดเส้นของ Beau การศึกษาในปีพศ. 2548 ที่ตีพิมพ์ในรายงานด้านการแพทย์และชีววิทยาระดับสูงรายงานว่าสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงทำให้เกิดการหยุดชะงักในการสร้างเมทริกซ์เล็บนำไปสู่การปรากฏตัวของเส้น Beau บนเล็บ